
ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพจำนวนมาก อ้างตัวเป็นบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) หรือสถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตมาหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน และสร้างความเสียหายต่อประชาชนในวงกว้าง 
อีกทั้ง ยังแอบอ้าง ชื่อ ภาพ หรือตราสัญลักษณ์ ของ ก.ล.ต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน เช่น สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในการโฆษณาชวนเชื่อและชักชวนให้ประชาชนลงทุนในหลักทรัพย์และสินทรัพย์ต่าง ๆ ผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ โทรศัพท์ ข้อความสั้น โซเชียลมีเดีย และช่องทางออนไลน์ 
ภัยกลโกงหลอกลวงให้ลงทุนที่เกิดขึ้นมาก ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ต้องออกมาเตือนภัยประชาชนระมัดระวังการถูกหลอกลวงให้ลงทุน จากการโฆษณาชวนเชื่อ ชักชวน และปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าหรือโลโก้ เพื่อปกป้องตัวเองจากมิจฉาชีพที่จะมาหลอกลวง
จะสังเกตได้อย่างไรว่า การชักชวนนั้นจะใช่การหลอกลวง? 
ทาง ก.ล.ต. และ FETCO ได้มีข้อแนะนำเบื้องต้นให้พิจารณารูปแบบการชักชวนลงทุนที่เข้าข่ายหลอกลวง ซึ่งพบว่ามักจะมีลักษณะ 6 ข้อ ดังนี้  
- เสนออัตราผลตอบแทนการลงทุนที่จูงใจและสูงเกินจริง ที่มาของผลตอบแทนไม่ชัดเจน
 - ให้ผลตอบแทนจากการชักชวนคนอื่นมาลงทุน
 - รับประกันผลตอบแทนการลงทุน อ้างว่าไม่มีความเสี่ยง
 - แอบอ้างชื่อ ภาพ โลโก้หน่วยงาน บริษัท หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือในการโฆษณาชวนเชื่อ 
 - ชักชวนให้ลงทุนในหลักทรัพย์และสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงให้ตรวจสอบได้
 - ให้ฝากหรือโอนเงินลงทุนเข้าบัญชีส่วนตัวของบุคคลธรรมดา ไม่มีการรายงานหรือแจ้งยืนยันการลงทุน
 
หากพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย อย่าเพิ่งหลงเชื่อ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพราะการโฆษณาชวนเชื่อหรือชักชวนให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว มักจะเป็นการหลอกลวง
ช่องทางในการตรวจสอบข้อมูลและสอบถามหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ใด?
กรณีถูกชักชวนให้ลงทุน หรือพบเห็นโฆษณาชักชวน สามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First และเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th หัวข้อ SEC Check First  และหากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าจะเป็นการหลอกลวงให้ลงทุน สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ที่ 
- ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร. 1207 หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. 
 - สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) โทร. 0-2226-0909 
 - สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) โทร. 0-2264-0900
 - สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โทร. 1166
 - กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  โทร. 1202
 - กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  โทร. 1570
 - กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โทร. 1441
 - ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 1359
 - ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213