ในช่วงนี้เราคงได้ยินข่าวหลายๆ บริษัทควักกระเป๋าทุ่มเงินซื้อหุ้นคืนกันเป็นจำนวนมาก แล้วเคยสงสัยกันมั้ยว่า การซื้อหุ้นคืนคืออะไร ? แล้วนักลงทุนจะได้ประโยชน์อะไร ?
การซื้อหุ้นคืน (Stock Repurchase) คือ การที่บริษัทจดทะเบียนนำเงินสดไปซื้อหุ้นของบริษัทเองกลับคืน โดยเป็นการซื้อจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือจากผู้ถือหุ้นโดยตรง ทั้งนี้ หุ้นที่บริษัทซื้อคืน (Treasury Stock) จะไม่นับเป็นองค์ประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้น ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล
3 สาเหตุหลักที่บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืน
- ส่งสัญญาณบวกให้ตลาดเห็นว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง
- ปรับโครงสร้างทางการเงิน บริษัทมีสภาพคล่องส่วนเกินและยังไม่มีความจำเป็นที่จะลงทุนเพิ่ม
- ราคาหุ้นในตลาดอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
บริษัทจดทะเบียนได้ประโยชน์อย่างไร ?
- เพิ่มอุปสงค์ของหุ้น ทำให้ราคาหุ้นอาจเพิ่มสูงขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพของตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญ เช่น กำไรต่อหุ้น (EPS) และผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินมูลค่าที่สูงขึ้นในระยะยาว
ผู้ลงทุนได้ประโยชน์อย่างไร ?
- กำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้น เมื่อปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนลดลง กำไรต่อหุ้นก็จะสูงขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทมีกำไร 100 ล้านบาท และมีหุ้นสามัญอยู่ 10 ล้านหุ้น กำไรต่อหุ้นจะเท่ากับ 10 บาท ต่อมา บริษัทมีการซื้อหุ้นคืน 2 ล้านหุ้น ทำให้จำนวนหุ้นลดลงเหลือ 8 ล้านหุ้น กำไรต่อหุ้นก็จะเท่ากับ 12.50 บาท
- อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เพิ่มขึ้น เพราะส่วนของผู้ถือหุ้นที่เป็นตัวหารถูกลดลง ทำให้ ROE สูงขึ้น
- ราคาหุ้นอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อปริมาณหุ้นในระบบลดลง แต่มีความต้องการซื้อหุ้นนั้นเท่าเดิม หรือมากขึ้นก็จะดันให้ราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นได้
- เงินปันผลต่อหุ้นเพิ่มขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ถือหุ้นลดลง ผู้ที่ถือหุ้นอยู่ก็อาจได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทมีเงินที่ใช้สำหรับปันผลอยู่ 5 ล้านบาท และมีหุ้นสามัญอยู่ 10 ล้านหุ้น เงินปันผลต่อหุ้นก็จะเท่ากับ 0.5 บาท ต่อมาบริษัทมีการซื้อหุ้นคืน 2 ล้านหุ้น ทำให้จำนวนหุ้นลดลงเหลือ 8 ล้านหุ้นเงินปันผลต่อหุ้นก็จะเพิ่มเป็น 0.625 บาท
สุดท้ายนี้เรามีคำถามให้คิดเล่น ๆ ว่า ถ้าหุ้นที่เราถืออยู่มีการประกาศว่าจากทางบริษัทว่าจะซื้อหุ้นคืน เราจะขายหุ้นตัวนั้น หรือ ไม่ขาย ?



