
Credit Rating เปลี่ยนได้
เครดิตเรตติ้ง ไม่ใช่ว่า ได้ระดับใดแล้วจะคงระดับนั้นไปตลอด บริษัทที่เคยได้เรตติ้ง AA เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะตกชั้นไปอยู่ BBB ได้ เช่นเดียวกับบริษัทที่เคยได้เรตติ้ง BB+ หากธุรกิจเติบโตมั่นคง ก็มีโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ Investment Grade ที่ BBB- ได้เหมือนกัน
วันนี้ ขอแนะนำเทคนิคในการดูว่าเรตติ้งของบริษัทนั้นจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งปกติบริษัทจัดอันดับความเชื่อถือจะให้มุมมองเพิ่มเติม ที่เรียกว่า “แนวโน้มอันดับเครดิต" (Rating Outlook) ที่แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
- Positive >> มุมมองเป็นบวก >> เรตติ้งอาจปรับขึ้น
- Stable >> มุมมองคงที่ >>เรตติ้งอาจไม่เปลี่ยนแปลง
- Negative >> มุมมองเป็นลบ >>เรตติ้งอาจปรับลง
- Developing >> มุมมองไม่แน่นอน >> เรตติ้งอาจปรับในทิศทางใดก็ได้
ตัวอย่าง
ทริสเรตติ้ง คงอันดับเรตติ้งองค์กร และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของบริษัท กาสะลอง จำกัด ที่ระดับ “AA" แนวโน้ม “Negative" หรือมุมมองเป็นลบ
หมายความว่า บริษัท กาสะลอง จำกัด มีโอกาสที่เรตติ้งจะปรับลดลงจาก AA เป็น A, A-,BBB+ หรือต่ำกว่า ใน 12 เดือนข้างหน้า เพราะอาจมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ภาวะตลาดที่มีคู่แข่งอย่าง บริษัท ซ้องปีบ จำกัด แย่งตลาด หรือปัญหาการบริหารจัดการภายในบริษัท กาสะลอง เอง
ส่วนเครดิตเรตติ้งจะเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่ไหนนั้น ปกติบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะทบทวนเครดิตเรตติ้งปีละครั้ง แต่ระหว่างปี หากมีข้อมูลหรือปัจจัยสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อธุรกิจ ก็เป็นผลให้มีการปรับมุมมอง หรือปรับเครดิตเรตติ้ง ได้เช่นกัน
อย่างเช่น ในช่วงนี้จะประเด็นข่าวสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนชิงความเป็นผู้นำเทคโนโลยีของโลก ส่งผลกระทบชิ่งมายัง บริษัท มั่นฟ้า ที่ส่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไปจีนได้น้อยลง หากบริษัท มั่นฟ้า มีสภาพคล่องทางธุรกิจน้อยอยู่แล้ว ทั้งบริษัทและหุ้นกู้ก็เสี่ยงถูกลดอันดับเรตติ้งลงก่อนจะครบ 1 ปีก็เป็นได้