มารู้จักเงินเฟ้อกัน (บล.บียอนด์)

ชวนดูพลังผลตอบแทนดอกเบี้ยทบต้น (บลน.ฟินโนมีนา)

Passive Income เดือนละ 50,000 ถ้าอยากมี ลงทุนอะไรได้บ้าง

ไม่ตั้งเป้าหมายทางการเงิน สร้างปัญหาได้มากกว่าที่คิด (อเวนเจอร์ แพลนเนอร์ )
4 ขั้นตอนสร้างความมั่งคั่งสู่ “อิสรภาพทางการเงิน (เกียรตินาคินภัทร)

นับ 1 ให้ถึง ล้าน ลงทุนแบบ 360 องศา (เกียรตินาคินภัทร)
มูลค่าเงินตามเวลา Time Value of Money หลักการช่วยตัดสินใจลงทุน (เกียรตินาคินภัทร)

พีระมิดการลงทุน (ธนาคารไทยเครดิต)

ความแตกต่างและประโยชน์ของหุ้นต่างประเทศ EFT DR DRX (บล. กสิกรไทย)
รู้ทันลงทุนทองคำ (เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก)
สำหรับสายลงทุนทองคำแท่งกับร้านทอง อย่าลืมตรวจสอบน้ำหนักทองคำที่ท่านซื้อให้ตรงกับน้ำหนักทองเวลารับ เพื่อป้องกันการถูกหลอกถูกโกง ทางที่ดีควรซื้อทองคำกับร้านทองที่ได้รับการรับรองจากสมาคมค้าผู้ทองคำ
และมีการรับรองจาก สคบ.
ทำไมเกิดสงคราม ทองจึงขึ้น (เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก)
การที่เกิดสงครามแล้วทองขึ้นนั้นเป็นปัจจัยมาจาก สินทรัพย์อื่นมีความผันผวน เมื่อเกิดช่วงวิกฤตนักลงทุนจึงหัน ไปลงทุนทองคำที่ถูกนับเป็น "สินทรัพย์ปลอดภัย" หรือที่เรียกว่า "Safe Haven Assets" เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้ โดนความร้อนก็ยังไม่สูญสลายไป และมีมูลค่าในตัวของมันเอง เหมาะกับการลงทุนในระยะยาว และส่งต่อเป็นมรดกตกทอดให้แก่ลูกหลานในอนาคต ไม่ว่าโลกจะอยู่ในสถานการณ์ใด ทองคำเป็นสิ่งที่สำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การแพทย์ เทคโนโลยี การวิจัย อวกาศ เป็นต้น
จึงทำให้เรานั้น เห็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติในโลก จากสงคราม ความขัดแย้ง วินาศกรรม 11 กันยายน การระเบิดครั้งใหญ่ที่เบรารุส โรคระบาดโควิด สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซีย และข่าวล่าสุดคือ สงครามระหว่างกลุ่มฮามาส และอิสราเอล ส่งผลให้ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทุกครั้ง นักลงทุนทุกคนล้วนใช้ข่าววิกฤตต่าง ๆ
ในการคาดการณ์ทองคำ
ทำไมราคา Gold Spot กับ Gold Futures จึงไม่เท่ากัน (เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก)
Gold Spot คือราคาทองคำที่ซื้อขายกันที่แน่นอน ณ ปัจจุบันและส่งมอบทันที หรือภายในระยะเวลาอันสั้น
Gold Futures คือสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า โดยผู้ซื้อและผู้ขายตกลงซื้อขายทองคำในราคาที่กำหนดไว้
ล่วงหน้า และจะทำการส่งมอบในอนาคต ความแตกต่างของราคาที่เกิดขึ้น จะประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
1. การคำนวณประมาณการราคา Futures ตาม “ทฤษฎี Cost of Carry Model” เป็นแบบจำลองทางการเงินที่ ใช้คำนวณราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) โดยอิงจากราคาปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิง (Spot Price) และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองสินทรัพย์นั้นจนถึงวันส่งมอบสัญญา
Cost of Carry เป็นบวก (r > d): ราคา Futures จะสูงกว่าราคา Spot (Premium) เนื่องจากต้นทุนการถือครองสินทรัพย์ (อัตราดอกเบี้ย) สูงกว่าผลตอบแทนจากการถือครอง (เงินปันผล)
Cost of Carry เป็นลบ (r < d): ราคา Futures จะต่ำกว่าราคา Spot (Discount) เนื่องจากต้นทุนการถือครองสินทรัพย์ต่ำกว่าผลตอบแทนจากการถือครอง
Cost of Carry เป็นศูนย์ (r = d): ราคา Futures เท่ากับราคา Spot
หมายเหตุ : Cost of Carry Model เป็นแบบจำลองพื้นฐานและอาจไม่สามารถอธิบายความเคลื่อนไหวของราคา Futures ได้อย่างสมบูรณ์เสมอไป
Tips เพื่อการวางแผนการเงินและลงทุน (ไทยสมุทร)

วิธีจัดพอร์ตลงทุน Asset Allocation พิชิตเป้าหมาย แบบไม่ต้องรอ “ฟลุค” (บลน. ฟินโนมีนา)