การจัดการเงินในกระเป๋าให้มีเหลือ เหมือนเป็นเรื่องง่ายที่ต้องมี “รายรับ” มากกว่า “รายจ่าย” แต่ชีวิตจริงไม่มีใครรู้อนาคตว่าจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม หรือรายได้ลดเมื่อใด ดังนั้น ณ ปัจจุบันที่ยังมี “รายรับ” อยู่ ควรจัดการเงินเพื่อให้มีเหลือเก็บ และลงทุนเพิ่มผลตอบแทน
จัดการรายรับ
“มั่นใจทุกช่วงชีวิต ด้วยเคล็ดลับถุงเงิน 3 ถุง”
ใช้จ่ายประจำและฉุกเฉิน เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำ และเผื่อไว้ใช้ยากฉุกเฉิน ทุกวันชีวิตมีเรื่องที่ต้องใช้จ่าย และมีเรื่องไม่คาดคิดอยู่เสมอ
สะสมไว้ให้ได้ตามฝัน เก็บก่อนใช้ แบ่งไปลงทุน ไว้ทำเป้าหมายให้สำเร็จตามฝัน เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ท่องเที่ยว ชำระหนี้ ซื้อของถูกใจ เติมเต็มความสุขสดชื่นและพลังชีวิต
ลงทุนไว้ใช้ยามเกษียณ
ลงทุนไว้ช่วงวัยทำงาน เพื่อใช้ในยามเกษียณ เมื่อชราไร้กำลังวังชาและอาจ
ไม่มีใครดูแล ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ต้องรอพึ่งลูกหลานก็อยู่ได้
จัดการรายจ่าย
“วิธีง่าย-จ่ายให้เงินเหลือ”
การใช้จ่ายในชีวิตมีทั้งเรื่องจำเป็นและช้อปปิ้งตามอารมณ์ กรณีมีรายได้มากสามารถปรนเปรอตัวเองได้ทุกเรื่องและมีเหลือออมและลงทุน นับว่าเป็นผู้โชคดี แต่หากบางช่วงชีวิตมีเหตุฉุกเฉินจนทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่าย มีภาระหนี้บีบรัด หรือเกิดแรงบันดาลใจมีเป้าหมายชีวิตขึ้นมาว่า ต้องการให้มีเงินเหลือเพิ่มขึ้น
ลองค้นหาวิธีลดรายจ่ายแบบง่าย (Simple Way to Save Money) มาปรับใช้ ลดการใช้จ่ายสิ้นเปลืองหรือค่าใช้จ่ายแฝง ในอินเทอร์เน็ตมีเป็นร้อยเป็นพันวิธี ตัวอย่างวิธีง่ายทำได้ทันที เช่น
ประหยัดแบบรักษ์โลก
-
ลดค่าไฟ ด้วยการปิดสวิตช์-ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน เพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เพราะทุก
1 องศาจะประหยัดไฟได้ 10% -
ลดค่าน้ำได้จากซักผ้าครั้งละหลายชิ้น อาบน้ำเร็ว ไม่เปิดฝักบัวตลอดเวลาอาบ
-
ลดค่าน้ำมัน ด้วยวิธีเดินทางด้วยรถไฟฟ้าแทนการขับรถในเส้นทางรถติด
ประหยัดแบบไม่ซื้อทิ้ง
-
สิ่งของจำเป็น เช่น แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม ซื้อเป็นแพคประหยัดกว่า
-
ตู้เย็น เป็นแหล่งซุกของซื้อทิ้งต้องวางแผนการซื้อและตรวจดูของในตู้เย็นสม่ำเสมอ จัดของใกล้หมดอายุ
มาไว้ข้างหน้าให้หยิบง่าย
ซื้อมือสอง
-
สิ่งของคงทน อย่างรถยนต์ หนังสือ ของเด็กอ่อน เช่น เปลหรือรถเข็นเด็ก เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ
คนประหยัด