To the moon (ไปดวงจันทร์) เป็นคำเปรียบเทียบการทะยานของเหรียญดิจิทัลที่เป็นขาขึ้น ที่เหมือนจะขึ้นทะลุโลกไปแตะดวงจันทร์ เวลาผู้ลงทุนพูดกันว่า "เมื่อไรจะ moon" ก็คือ เมื่อไรราคาจะวิ่ง (ขึ้น) นั่นเอง
HODL (โฮเดิล) หมายถึง การถือเหรียญดิจิทัลโดยไม่ทำอะไร ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง ล้อเลียนมาจากการพิมพ์คำว่า "hold" ผิด ของชาวเน็ต
FUD (ฝัด') มาจากคำเต็ม ๆ ว่า "fear, uncertainty and doubt" จะใช้ในสถานการณ์ เช่น มีใครสักคนกำลังพูดว่า บิตคอยน์กำลังเป็นฟองสบู่นะ ชาวคริปโทเนี่ยน อาจจะพูดว่า "this guy having FUD"
PUD มาจากคำเต็ม ๆ ว่า "pump and dump" เป็นพฤติกรรมของการปั๊มราคาขึ้นไปสูง ๆ แล้วก็ขายทุ่มตลาดลงมา หรือจะเรียกว่า "ปั่นแล้วทุบ (ราคา)" ก็ได้
FOMO (โฟโม) ย่อมาจากคำว่า "Fear Of Missing Out" ใช้ในสถานการณ์ตัวอย่าง เช่น หากมีชาวคริปโทเนี่ยนพูดคุยกันแล้วถามว่า "ทำไมคุณถึงซื้อเหรียญนี้เหรอ" สามารถตอบได้ว่า "FOMO" ก็หมายถึง เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง นั่นเอง
Bagholders (แบ็กโฮลเดอร์ส) แปลตรงตัว คือ คนถือกระเป๋า แต่ถ้าตามความหมายของชาวคริปโทเนียน จะหมายถึง คนถือกระเป๋าที่ว่างเปล่า ไม่มีเงินเลย ก็คือ คนที่ขาดทุนจนหมดตัว หรือจะเป็นคำที่คนไทยพูดติดปาก คือ "ลุกช้าจ่ายรอบวง"
Whale (เวล) แปลตรงตัว คือ วาฬ ผู้ถือคริปโทในปริมาณมาก ๆ เหมือนเจ้าสมุทรอย่างวาฬ ที่ทุกการเคลื่อนไหวมีผลกระทบที่ใหญ่กว่าปลาทั่วไป
Fish (ฟิช) แปลตรงตัวก็คือ ปลา แต่ถ้าในโลกของชาวคริปโทเนียน fish ก็คือ ผู้ซื้อขายคริปโทรายย่อย ที่มีมูลค่าการซื้อขายไม่มากพอที่จะมีนัยสำคัญต่อราคาตลาด ไม่เหมือนวาฬ (whale)
Bullish (บูลลิช) หรือ กระทิง เป็นคำที่ใช้กันมานาน เปรียบถึงสภาวะที่เป็นตลาดขาขึ้น สาเหตุที่เปรียบเหมือนกระทิง เพราะว่า เวลากระทิงจะจู่โจมจะมีลักษณะในการขวิดขึ้นด้านบน ให้ศัตรูลอยหรือกระเด็นขึ้น
Bearish (แบริช) หรือ หมี เป็นคำที่แทนสภาวะที่ตรงกันข้างกับ bullish ก็คือ สภาวะตลาดขาลง สาเหตุที่เปรียบเทียบเหมือนหมี เพราะว่าเวลาที่หมีจู่โจมจะใช้อุ้งมือลากเหยื่อลงมาหาตัว และทุบเหยื่อ