ปี 2565 พบ 56-1 One Report พร้อมกันอย่างเป็นทางการ

21 กุมภาพันธ์ 2565
อ่าน 4 นาที




ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี บริษัทจดทะเบียน (ที่มีรอบบัญชี 1 มกราคม - 31 ธันวาคม) จะทยอยส่ง แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี หรือ แบบ 56-1 และภายในวันที่ 30 เมษายน ผู้ถือหุ้นจะได้รับ รายงานประจำปี หรือ แบบ 56-2 ที่มีข้อมูลสำคัญด้านต่าง ๆ ของบริษัทฯ 

ในปี 2565 จะพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีและรายงานประจำปีจะรวมกันเป็น “56-1 One Report” ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด ซึ่งนอกจากจะมีข้อมูลพื้นฐานของบริษัทแล้ว ยังยกระดับการรายงานข้อมูลด้าน ESG ในกระบวนการทำธุรกิจของบริษัท ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผู้ลงทุนคาดหวังจากบริษัทที่ลงทุนมากขึ้นด้วย

แบบ 56-1 One Report ช่วยลดภาระของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน เพราะสามารถใช้แบบรายงานเดียวส่งข้อมูลได้ทั้ง ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งทำให้
ผู้ลงทุนเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยไม่ต้องรอจากหนังสือเชิญประชุมสามัญประจำปี

แล้ว “56-1 One Report” ดีอย่างไร มาดูกัน




  • ปรับใหม่ให้ข้อมูลครอบคลุมยิ่งขึ้น
“56-1 One Report” ไม่ได้เป็นเพียงการรวมแบบ 56-1 และแบบ 56-2 เข้าด้วยกันเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงรูปแบบการรายงานและเปิดเผยข้อมูลเพิ่ม ทั้งส่วนการประกอบธุรกิจและผลการดำเนินงาน และการกำกับดูแลกิจการ  

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในส่วนที่ 1 การประกอบธุรกิจและผลการดำเนินงาน เช่น
+ การใช้เงินจากการระดมทุนตามวัตถุประสงค์การใช้เงิน
+ ข้อผูกพันที่บริษัทให้คำมั่นไว้ / เงื่อนไขการอนุญาตและการรับหลักทรัพย์
+ นโยบายและข้อมูลการพัฒนานวัตกรรม (R&D) โดยคำนึงถึง ESG
+ อธิบายเหตุผลที่ให้บุคคลที่อาจมีความขัดแย้งถือหุ้นในบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมเกิน 10%
+ นโยบาย กรอบการดำเนินงาน และแผนบริหารความเสี่ยงระดับองค์กร
+ ความเสี่ยงของธุรกิจที่มีผลกระทบต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม หรือผู้มีส่วนได้เสีย   
+ ปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินหรือการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ
+ แนวโน้มหรือผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยรวมถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการเคารพสิทธิมนุษยชน 
+ การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ซึ่งยกระดับจากหัวข้อ CSR เดิม

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในส่วนที่ 2 การกำกับดูแลกิจการ เช่น
+ นโยบาย พัฒนาการ และจรรยาบรรณธุรกิจ
+ โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ
+ ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับคณะกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อย ผู้บริหาร พนักงาน  
+ ผลการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการ และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ  

สรุป One Report ดีอย่างไร #การกำกับดูแลกิจการ (Corporate Governance: CG)
- สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจที่มีนโยบายและการยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่เข้มแข็ง ทำให้การพัฒนาองค์กรไปในแนวทางที่ปฏิบัติและวัดผลได้ ซึ่งเป็นกลไกแบบจับต้องได้มากขึ้น รวมทั้งสามารถต่อยอดไปสู่การมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อันจะสร้างคุณค่าให้แก่กิจการอย่างยั่งยืน
- สะท้อนถึงบทบาทและความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท (Tone from the Top) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อน ESG ขององค์กร
- การเปิดเผยข้อมูล ESG ตลอดกระบวนการ โดยเริ่มต้นจากนโยบายไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และการรายงานผล จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อบริษัท ผู้ลงทุน และสังคมในระยะยาว



  • ยกระดับการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG
บบ 56-1 One Report นอกจากจะเป็นการรวมทุกเรื่องในเล่มเดียวแล้ว แบบ 56-1 One Report ยังเป็นการยกระดับการเปิดเผยข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) #ESG ในกระบวนการทำธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน 

จากหัวข้อ CSR ยกระดับเป็น “การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน” โดยมี 4 หัวข้อหลัก คือ

1. นโยบายและเป้าหมายการจัดการด้านความยั่งยืน 
2. การจัดการผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ ทั้งในเชิงบวกและลบ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ 
3. การจัดการด้านความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม ทั้งด้านนโยบาย แนวปฏิบัติ และผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
4. การจัดการด้านความยั่งยืนในมิติสังคม ทั้งด้านนโยบาย แนวปฏิบัติ และผลการดำเนินงานด้านสังคม

นอกจากนี้ ยังสอดแทรกข้อมูลด้าน ESG ไว้ในหัวข้ออื่น ๆ อีกด้วย โดยครอบคลุมถึงเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  

การเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG จะช่วยให้ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และ stakeholder ได้เห็นวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจในมิติที่ครอบคลุมมากกว่าการพิจารณาเพียงข้อมูลทางการเงิน ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ มีความสามารถในการแข่งขันในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน (disruption) รวมถึงมีแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และการบริหารจัดการความเสี่ยง อันจะนำมาสู่ความยั่งยืนของธุรกิจ

บริษัทที่สามารถเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ได้ตามบริบทของตน สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทตระหนักถึงความสำคัญและมีการลงมือทำอย่างจริงจัง 

สรุป One Report ดีอย่างไร #การขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 
- สะท้อนการให้ความสำคัญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการบริหารความยั่งยืนของธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
- กำหนดหัวข้อและประเด็นทางสิ่งแวดล้อมและสังคมที่สอดคล้องกับธุรกิจได้ชัดเจนขึ้น และมีการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังกับเรื่องที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ
- เห็นภาพรวมการดำเนินงานด้าน ESG ในกระบวนการทำธุรกิจของบริษัทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น