ทำไมต้อง SRI FUND

08 สิงหาคม 2565
อ่าน 4 นาที



​การลงทุนตามหลัก ESG นั้น สามารถช่วยสร้างความยั่งยืนทางการเงินและการลงทุนให้กับเรา โดย SRI Fund หรือ Sustainable & Responsible Investing Fund ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้เราเข้าถึงการลงทุนในกิจการที่เน้นหลัก ESG ได้ วันนี้มาดูกันว่า SRI Fund มีข้อดีอย่างไร แล้วทำไมเราถึงต้องเลือกลงทุนใน SRI Fund  
.



​ข้อดีของการลงทุนใน SRI Fund มีทั้งคุณค่าจากการลงทุนที่สร้างความยั่งยืนกับโลก และทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการกระจายการลงทุน รวมทั้งข้อดีของการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ซื้อขายง่าย และมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลบริหารจัดการลงทุนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์แห่งความยั่งยืน

หากใครที่เพิ่งมาอ่านโพสต์นี้ แล้วอยากรู้ว่า SRI Fund คืออะไร สามารถไปอ่านย้อนหลังได้ที่​นี่
SRI fund ทางเลือกของการลงทุนเพื่อความยั่งยืน​ 

สำหรับข้อดีแต่ละข้อของการที่เราเลือกลงทุนใน “SRI Fund” นั้น มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ติดตามกันต่อเลย
.



​1. เป็นการลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เน้น “ความยั่งยืน” เป็นหลัก

“ความยั่งยืน” ตามหลักของ ESG (Environmental, Social และ Governance) นั้น ถือเป็นทางเลือกใน
การลงทุนที่ทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งความยั่งยืนที่ว่านี้มีหลากหลายมิติ และหากมองในเชิงมิติของสิ่งแวดล้อม อาจหมายถึง ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำ อากาศบริสุทธิ์ และป่าไม้ ที่จะอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ หรือ หากมองในเชิงมิติสังคม ก็อาจหมายถึงการอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เมื่อเราต่างให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนนั่นเอง 

ดังนั้น กิจการที่เน้น “ความยั่งยืน” ตามหลักของ ESG ก็หมายความว่า กิจการนั้น ๆ จะต้องดำเนินธุรกิจ
ด้วยความใส่ใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในหลากหลายมิติ ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการที่กิจการ
มีธรรมาภิบาลที่ดีอันจะนำไปสู่การดำเนินกิจการหรือค้าขายโดยมีคู่ค้าที่ดี มีลูกค้าและผู้ลงทุนที่ให้การสนับสนุนกิจการที่มองเห็นถึงคุณค่าของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในภาพเดียวกันนี้ โดยทั้งหมดล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้กิจการนั้นเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้ร่วมลงทุนในกิจการเหล่านี้ผ่านกองทุนรวมที่เรียกว่า SRI Fund

2. มีผู้จัดการกองทุนช่วยคัดเลือกกิจการ และบริหารจัดการลงทุนให้

แน่นอนว่าหากใครที่ชอบ หรือศึกษาประโยชน์ของการลงทุนในกิจการที่เน้น “ความยั่งยืน” มาบ้างแล้ว ก็น่าจะพอเห็นประโยชน์หรือคุณค่าในการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากเราเลือกลงทุนด้วยตัวเราเอง เราอาจไม่มั่นใจว่ากองทุนนั้นไปลงทุนในกิจการที่เน้นความยั่งยืนอย่างแท้จริงหรือไม่ 

ดังนั้น SRI Fund จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีทีมผู้จัดการกองทุน ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์และคัดเลือกกิจการที่ผ่านการตรวจสอบเชิงลึกมาแล้วว่า เป็นกิจการที่มีแนวคิดและการกระทำในเชิงประจักษ์ตามหลักของ ESG ว่าใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต ซี่งในการคัดเลือกกิจการหรือหลักทรัพย์ที่จะไปลงทุนนั้น แน่นอนว่านอกจากศักยภาพพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจและการทำกำไรของกิจการนั้นแล้ว ผู้จัดการกองทุนก็จะต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติอื่นให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดไว้ด้วยเช่นกัน อาทิ ข้อจำกัดด้านการลงทุน ความเสี่ยง แนวทางการดำเนินการและมาตรการควบคุมผลกระทบในกรณีที่ไม่เป็นไปตามนโยบายการลงทุนด้านความยั่งยืน เป็นต้น
.



​3. ซื้อขายได้เหมือนกองทุนรวมทั่วไป

กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ SRI Fund นี้ เป็นกองทุนรวมทั่วไปประเภทหนึ่ง (Mutual Fund) ที่หลายท่านรู้จักและลงทุนอยู่ในปัจจุบันนี้ เพียงแต่สาระสำคัญของ SRI Fund นั้นก็คือ “นโยบายการลงทุนในกิจการ
ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน หรือ ESG” ดังนั้น ถ้าหากสนใจอยากลงทุนในกิจการที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืนผ่าน SRI Fund แล้ว ก็สามารถเลือกลงทุนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ. ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่มีการจัดตั้งและเสนอขาย SRI Fund หรือจากตัวแทนขายหน่วยลงทุนที่ บลจ. แต่งตั้งได้เช่นเดียวกับกองทุนรวมอื่น ๆ 

นอกจากนี้ หากเราเลือกลงทุนระยะยาวใน SRI Fund ที่เป็นกองทุนเปิด (Opened-End Fund) ซึ่งมีช่องทางที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายแล้ว เมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ก็สามารถขายหน่วยลงทุน SRI Fund ที่เรามีอยู่ได้เหมือนกองทุนรวมทั่วไป แต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า SRI Fund เป็นการเน้นการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากบริษัทที่เน้นความยั่งยืนนั้น มีแนวโน้มที่จะสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับเราได้ในระยะยาวนั่นเอง

4. เป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงทางการลงทุน

หลายท่านที่กำลังลงทุนอยู่ ณ ขณะนี้ น่าจะเข้าใจหลักของความเสี่ยงที่เป็นสากลอย่าง “High Risk – High Return” หรือ พูดง่าย ๆ คือ ถ้าเราลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เราจะคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ในขณะที่ถ้าเราลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เราก็มักจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ต่ำ ซึ่งแต่ละท่านนั้นก็มีระดับการยอมรับความเสี่ยง (ที่จะสูญเสียเงินต้นจากการลงทุน) ไม่เท่ากัน หรือหากต้องการผลตอบแทนสูงขึ้นแต่ก็ยังคงกลัวความเสี่ยง 

ดังนั้น “การกระจายการลงทุน” (Diversification) จึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ นั่นหมายความว่า เราสามารถแบ่งสัดส่วนกระจายการลงทุนไว้ในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามความเสี่ยงที่รับได้ โดยงานวิจัยพบว่า ความผันผวน
ของกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนแบบยั่งยืนหรือ SRI Fund นั้น จะต่ำกว่ากองทุนรวมที่ไม่ใช่ SRI Fund ทำให้กองทุนรวมประเภทนี้อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นน้อยกว่า ซึ่งหากใครที่ชอบลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่ต้องการสร้างความยั่งยืนในระยะยาวนั้น SRI Fund ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เรากระจายสัดส่วนเงินลงทุนในพอร์ตได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน       
.



​ข้อสังเกตก่อนการลงทุนใน SRI Fund      

1. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะเป็นผู้รับรองว่ากองทุนนี้เป็นกองทุนที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุน
เพื่อความยั่งยืน และมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน จึงจะสามารถใช้ตราสัญลักษณ์ “SRI” บนหน้าหนังสือชี้ชวน (factsheet) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถสังเกตได้ง่าย 

2. ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ในหนังสือชี้ชวนของ SRI Fund ก่อนการลงทุน เพื่อให้รับทราบถึง ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ก่อนการลงทุน อาทิ นโยบายการลงทุน หลักทรัพย์ที่กองทุนนั้นได้ไปลงทุน ผลการดำเนินงาน
ที่ผ่านมา ตลอดจนค่าธรรมเนียม รวมถึงสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนที่ได้รับอนุญาต ก่อนการซื้อขาย ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อของกองทุน SRI Fund ได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ทุกครั้งก่อนตัดสินใจลงทุน
.



​รู้จัก SRI Fund สัญลักษณ์แห่งความยั่งยืน

กองทุนที่เป็น SRI Fund นั้นจะได้รับตราสัญลักษณ์ ซึ่งจะปรากฏอยู่บนหน้าแรกของหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวม (Fund Fact Sheet) และแน่นอนว่าสัญลักษณ์ที่ปรากฎอยู่นี้ มีที่มาและความหมายดี ๆ ซ่อนอยู่ วันนี้เรามารู้จักกับความหมายของตราสัญลักษณ์ SRI Fund กันเลย

ตัวอักษร “S R I” ที่ปรากฏเด่นชัด มาจากคำว่า Sustainable, Responsible และ Investing
  • Sustainable หมายถึงความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล 
  • Responsible หมายถึงความรับผิดชอบต่อทุกภาคส่วน ทั้งต่อคู่ค้า สังคม และตนเองด้วยเช่นกัน
  • Investing หมายถึงการลงทุนอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ที่จะขับเคลื่อนให้โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นในอนาคต และ “สร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน” ให้แก่ตัวผู้ลงทุนด้วยเช่นกัน 

ลูกโลกสีฟ้าเหนือตัวอักษร “I” หมายถึงโลกของเราที่ประกอบด้วยผืนน้ำอันแสดงถึงความสะอาดและบริสุทธ์ 
ของสิ่งแวดล้อม ซึ่งน้ำก็เปรียบได้ดั่งชีวิตของสรรพสิ่งบนโลกใบนี้นั่นเอง หากเราปล่อยปละละเลย ทำให้เกิดมลภาวะ และทำให้น้ำเน่าเสีย ธรรมชาติก็จะนำพาให้สิ่งเหล่านั้นกลับมาสู่มนุษย์และสรรพสัตว์ ก่อให้เกิดโรคภัย
ไข้เจ็บและอายุสั้นลง แต่หากเราใส่ใจและร่วมกันช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมนั้นดีขึ้น กระบวนการธรรมชาติก็จะนำพา
สิ่งดี ๆ เหล่านี้คืนกลับมาสู่พวกเราด้วยเช่นเดียวกันนั่นเอง

ลูกศรสีเขียวบริเวณตัวอักษร “S” หมายถึง การเติบโตอย่างยั่งยืน “Sustainable Growth” โดยหากสังเกต
จะพบว่าลูกศรสีเขียวนี้ ได้หันตรงไปยังลูกโลกสีฟ้า ซึ่งสื่อถึงความหมายของปลายทางความสำเร็จของการเติบโตอย่างยั่งยืน อันจะทำให้โลกของเรานั้นกลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งนั่นเอง