หุ้นมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

04 ตุลาคม 2562
อ่าน 3 นาที
​หุ้นมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?​​
ความเสี่ยงจากภาวะตลาด (market risk) ซึ่งมักขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ เช่น ภาวะการเมือง สังคมภายในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่จะกระทบต่อภาคธุรกิจจนทำให้ภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไปจนมีผลกระทบต่อราคาหุ้น 
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (liquidity risk) ที่หุ้นบางบริษัทอาจไม่ได้ซื้อง่ายขายคล่อง มีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดไม่มาก ทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ในเวลาหรือราคาที่ต้องการหากต้องรีบขายเพราะมีความจำเป็นต้องใช้เงิน
ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหุ้น (company risk) เช่น การบริหารกิจการผิดพลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหรือนโยบายบริษัท การถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือการถูกฟ้องล้มละลาย เป็นต้น หรือหากบริษัทต้องพึ่งพิง ผู้จัดจำหน่ายหรือลูกค้ารายใหญ่บางรายมากจนเกินไป หากเกิดปัญหากับบริษัทเหล่านี้ ก็จะมีความเสี่ยงที่บริษัทอาจไม่สามารถค้าขายต่อไปได้ หรือถ้ากิจการต้องพึ่งพาช่างฝีมือหรือช่างที่มีทักษะเฉพาะตัวมากเกินไป การขาดแคลนแรงงานหรือการประท้วงหยุดงานก็อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานบริษัทในช่วงนั้น ๆ ได้ยิ่งถ้าบริษัททำธุรกิจหลากหลาย ความเสี่ยงจากการดำเนินงานอาจยิ่งเพิ่มมากได้


 

หุ้น IPO กับหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดหุ้น

เมื่อบริษัทนำหุ้นออกขายต่อประชาชนทั่วไปโดยตรงครั้งแรก เราจะเรียกว่า การเสนอขายหุ้น IPO (initial public offering) หรือการนำหุ้นออกขายในตลาดแรก ซึ่งถ้าจะให้เห็นภาพกันง่ายๆ ตลาดแรกก็เหมือนกับการที่เราไปซื้อรถป้ายแดงใหม่เอี่ยมออกมาจากโชว์รูมนั่นเอง หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายหุ้นในตลาดแรกไปแล้ว ส่วนใหญ่บริษัทก็จะนำหลักทรัพย์เหล่านั้นเข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดรองเพื่อให้เกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้ โดยปัจจุบันในบ้านเรามีตลาดรองซื้อขายหุ้น ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) สำหรับหุ้นที่มีขนาดใหญ่และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) สำหรับหุ้นที่มีขนาดเล็กแต่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ส่วนบริษัทที่นำหุ้นไปจดทะเบียนนั้นก็จะเรียกว่า “บริษัทจดทะเบียน”

การที่ผู้ลงทุนตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้น IPO นั้น ก็เพื่อร่วมเป็นเจ้าของบริษัทโดยสามารถซื้อหุ้นในราคาที่เสนอขายครั้งแรก ซึ่งผู้ลงทุนบางคนก็อาจรอดูสถานการณ์การลงทุนไปอีกสักระยะ เพื่อดูผลประกอบการของบริษัทก่อนแล้วจึงค่อยตัดสินใจลงทุนในตลาดรองต่อไปเพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุนในหุ้นนั้น ส่วนเมื่อสนใจจะลงทุนแล้วจะเริ่มลงทุนจำนวนมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ลงทุนที่จะตกลงใจ ที่สำคัญต้องศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
 
ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้น
ผลตอบแทนจากการขายหุ้นในรูปแบบกำไรส่วนต่างของราคา (capital gain) ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้ตามเกณฑ์ของสรรพากร www.rd.go.th
ก่อนตัดสินใจลงทุนในหุ้น...ได้ประเมินเรื่องเหล่านี้แล้วหรือยัง? 
  • สำรวจจุดมุ่งหมายในการลงทุนของตนเองให้แน่ชัด เช่น หากมีเงินเย็นอยู่ก้อนหนึ่งที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในเวลาอันสั้นก็อาจเน้นลงทุนระยะยาวในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานฐานดี จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ 
  • เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงของหุ้นได้ เช่น หากเรากันเงินไว้ลงทุนในหุ้นก้อนหนึ่งต้องแน่ใจว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดคิดแล้วเราต้องสูญเงินก้อนนั้น เราจะสามารถทำใจยอมรับได้
  • ​เข้าใจและรู้จักหุ้นที่ต้องการลงทุนดีแล้วก่อนจะตัดสินใจลงทุนในหุ้นของบริษัทใด อย่าลืมศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลให้ดีจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น หนังสือชี้ชวนและงบการเงินที่บริษัทเปิดเผยไว้ โดยดูได้จากเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th

อ่านเพิ่มเติม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง