กองทุนรวม ETF หุ้น

04 ตุลาคม 2562
อ่าน 3 นาที

​​​กองทุนรวม ETF หุ้น ก่อนจะไปรู้จักกองทุนรวม ETF หุ้น มารู้จักกับ "กองทุนรวม ETF (exchange traded fund)" กันก่อน ซึ่งกองทุนรวม ETF เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีอ้างอิง โดยดัชนีอ้างอิงมีทั้งที่เป็นดัชนีราคาหลักทรัพย์ ดัชนีราคาตราสารหนี้ รวมถึงดัชนีอ้างอิงราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ น้ำมัน 

ดังนั้น กองทุนรวม ETF หุ้น จึงเป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนเช่นเดียวกับดัชนีราคาหุ้น ซึ่งฟังดูเผิน ๆ  ก็น่าจะเหมือนกับกองทุนรวมดัชนีหุ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วกองทุนรวม ETF หุ้น มีลักษณะเด่นที่พิเศษและแตกต่างไป

ลักษณะเด่นของกองทุนรวม ETF หุ้นที่แตกต่างกับกองทุนรวมดัชนีหุ้น
  • มีการนำหน่วยลงทุนไปจดทะเบียนที่ตลาดรอง เช่น ตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากที่มีการเสนอขายกองทุนรวม ETF หุ้นแล้วส่งผลให้กองทุนรวม ETF หุ้น เปรียบเหมือนหุ้นตัวหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์
  • ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายกองทุนรวม ETF หุ้นได้โดยส่งคำสั่งผ่านโบรกเกอร์เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น ซึ่งต่างกับกองทุนรวมทั่วไปที่ต้องซื้อขายผ่าน บลจ. หรือตัวแทนขายของ บลจ.
  • ราคาที่ซื้อขายเป็นราคา real time ในตลาด ณ ขณะนั้น ต่างกับกองทุนรวมทั่วไปที่จะทราบราคาซื้อขายได้ต้องรอคำนวณ NAV ในตอนสิ้นวันก่อน ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อและผู้ที่ต้องการขายสามารถทราบราคาได้อย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องรอดูราคาในตอนสิ้นวัน ทำให้ผู้ลงทุนมีความคล่องตัวในการตัดสินใจซื้อขาย หากในระหว่างวันมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นที่ส่งผลต่อราคาซื้อขายหน่วยลงทุน
  • ​​ราคา real time ของกองทุนรวม ETF หุ้นจะใกล้เคียงกับ NAV ที่แท้จริงของกองทุนรวม เนื่องจากมีกลไกที่ช่วยให้ราคาซื้อขายหน่วยลงทุนสะท้อนถึงมูลค่า NAV ของกองทุนรวม ETF หุ้นอย่างใกล้เคียง กลไกที่ว่าคือบลจ. จะต้องแต่งตั้ง participating dealer (PD) ซึ่งมักเป็นบริษัทหลักทรัพย์หรือธนาคารพาณิชย์ ให้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (market maker) โดย PD จะสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนโดยตรงกับ บลจ. ด้วยการนำหลักทรัพย์หรือหุ้นที่อยู่ในกลุ่มดัชนีอ้างอิงมาแลกเปลี่ยนกับหน่วยลงทุนได้เลย 

ตัวอย่างกลไกคือ เมื่อราคาหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ETF หุ้นในตลาดรองต่ำกว่ามูลค่า NAV PD จะเข้าไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ETF หุ้น (เมื่อมีความต้องการซื้อมาก ราคาหน่วยลงทุนในตลาดรองจะปรับสูงขึ้น) ต่อมา PD นำหน่วยลงทุนไปแลกหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนีอ้างอิงที่กองทุนรวมใช้กับ บลจ. และนำหลักทรัพย์นั้นไปขายในตลาดเพื่อทำกำไร (เมื่อขายหลักทรัพย์มากๆ ราคาหลักทรัพย์นั้น จะลดต่ำลง ส่งผลให้ NAV ของกองทุนรวม ETF หุ้นลดต่ำลงด้วย ราคาหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ETF หุ้นในตลาดจะอยู่ใกล้เคียง NAV ของกองทุนรวม ETF นั้น (อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องกองทุนรวม ETF) 

ผลตอบแทนและความเสี่ยง : ผลตอบแทนของกองทุนรวม ETF หุ้นจะแปรผันตามดัชนีอ้างอิง และแม้กองทุนรวม ETF หุ้นจะมีประโยชน์ในการช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นหลายตัวในคราวเดียวกัน แต่ก็ยังมีปัจจัยความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึง เช่น ความเสี่ยงของตลาดที่อาจมีความผันผวนอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ สังคม หรือการเงิน หรือความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของกองทุนรวม ETF ซึ่งเกิดจากการดำเนินงานของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ เป็นต้น

เหมาะกับใคร : กองทุนรวม ETF หุ้น เหมาะกับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะหาข้อมูลในการพิจารณาตัดสินใจลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัวในคราวเดียวกัน แต่มีความต้องการกระจายความเสี่ยงของการลงทุนไว้ในหลักทรัพย์หลาย ๆ ตัว โดยไม่ต้องการใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น การลงทุนในกองทุนรวม ETF หุ้นที่อ้างอิงดัชนี SET 50 ก็เทียบเท่ากับการมีพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยหุ้นซึ่งอยู่ในดัชนี SET 50 ทั้ง 50 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งทำให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการกระจายการลงทุนไว้ในหลักทรัพย์หลาย ๆ ตัว โดยใช้เงินลงทุนไม่มากได้ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการสภาพคล่องจากการลงทุน เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย ETF หุ้นได้ตลอดเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ

รู้ไว้ได้ประโยชน์ :

  • กองทุนรวม ETF หุ้นมีข้อมูลที่โปร่งใส เนื่องจากมีการประกาศรายชื่อของหุ้นหรือตราสารที่ลงทุนอยู่ในพอร์ตเป็นประจำทุกวันเพื่อประโยชน์ในการซื้อขายของผู้ลงทุนสถาบัน โดยสามารถดูข้อมูลได้จากเว็บไซต์ของบริษัทจัดการที่ทำหน้าที่บริหารกองทุนรวม ผู้ลงทุนจึงทราบข้อมูลอย่างชัดเจนว่ากองทุนรวมที่ตนเองลงทุนอยู่นั้นมีการลงทุนในหุ้นหรือหลักทรัพย์อะไรอยู่บ้าง
  • มีค่าธรรมเนียมในการจัดการกองทุนรวมอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากการบริหารจัดการกองทุนรวม ในแบบอนุรักษ์ โดยเลียนแบบตามดัชนีอ้างอิง ผู้จัดการกองทุนไม่ต้องใช้กลยุทธ์การลงทุนและดุลยพินิจในการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อที่จะเอาชนะผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง จึงส่งผลให้การเก็บค่าธรรมเนียมในการจัดการกองทุนรวมกับผู้ถือหน่วยลงทุนนั้นอยู่ในระดับต่ำ
  • ​ผู้ลงทุนควรมีการเตรียมตัวที่ดี โดยศึกษาข้อมูลจากหนังสือชี้ชวนอย่างละเอียด โดยเฉพาะในเรื่องของนโยบายการลงทุนรวมถึงความเสี่ยงจากการลงทุนว่าตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการและความเสี่ยงที่ยอมรับได้หรือไม่


 

อ่านเพิ่มเติม

เรื่องที่เกี่ยวข้อง